รีวิว Konica Minolta Alpha70
- the poseidon
- Nov 4, 2018
- 1 min read
สวัสดีครับ วันนี้มารีวิวเจ้าตัว Konica Minolta Alpha70 พึ่งได้มาประมาณสัปดาห์หนึ่ง ทำความคุ้นเคยกับมันสักพัก ได้รู้ว่าเจ้ากล้อง ออโต้ ตัวนี้ไม่ธรรมดา

หน้าตามันจะแนวๆ Canon eos 55
Konica Minolta Alpha70 ดูจากชื่อแล้วเป็นสินค้าหลังจากที่ Minolta ควบรวมกิจการกับ Konica ปัจจบัน ถูก Sony ซื้อไปเป็นที่เรียบร้อย โดยเจ้าตัวนี้ใช้เลนส์ A-Mount ถ้าใครเคยเห็นเจ้าอ้วนดำFullframe ของ Sony ก็ได้นำสิทธิบัตร A-mount ไปใช้เช่นกัน หรือ ชื่อรุ่น Alpha ที่ Sony ใช้ในการตั้งชื่อผลิตภัณฑ์กล้อง ก็ถูกใช้เช่นกัน
โดยเจ้าตัว Konica Minolta Alpha 70 เป็นรุ่นพี่ของ minolta alpha 5 หรือ ที่เรารู้จักกัน α-Sweet II เพราะโซนที่ขายในเอเชียจะ ขึ้นต้นด้วย α / Alpha ในโซนฝั่งอเมริกาใช้คำว่า Maxxum
เริ่มจากรูปทุกมุมก่อน บอกก่อนว่า Blog นี้จะรีวิวแค่บ้างส่วนเพราะมันเยอะจริงๆ

ด้านหลัง

ด้านข้าง

ด้านข้าง

ห้องฟิล์ม

จอ LCD เวลาแสดงผลเต็มๆ ก็จะประมาณนี้เพราะกลัวเข้าใจปิดเวลาดูรูปอื่นๆ ไม่ยอมใส่ หลอดไฟมาให้เวลาดูในที่มืดน่าตีมาก

แป้นตั้งค่าย่อย เวลาตั้งค่าก็หมุนให้ตรงขีด แล้วกดปุ่มกลาง func แล้วหมุน Dial ซึ่งมันละเอียดมากก
1.ระบบวัดแสง
มีให้ครบเท่าที่ปี 2447 จะให้ได้
1.วัดแสงเฉพาะจุด 2.วัดแสงเฉลี่ย 3.วัดแสงเฉลี่ยหนักกลาง
2.ระบบ Iso
โดยกล้องตัวนี้จะมีตัวอ่านค่า DX จากกลักฟิล์มให้ให้เราสามารถ พุช iso หรือ พูล มันได้ จากแป้นด้านซ้าย โดยหมุนไปที่ iso และ กดปุ่ม Funtion แล้วหมุน Dial ปรับได้ตั้งแต่ 6-6400
3.ระบบโฟกัส
มีโหมดโฟกัส มี 1.ออโต้ 2.ต่อเนื่อง 3.ครั้งเดียว
ถ้ากล้องหรือเลนส์ยี่ห้อยื่นเวลาปรับ MF หรือ AF ก็จะ คลิกที่ข้างๆเลนส์ แต่ตัวนี้จะต้องเปิดกล้องและกด ปุ่มท้ายสุดเวลาปิดกล้องก็จะคงค่านั้นๆเอาไว้ ถ้าหากเราต้องการเปลี่ยนจุดโฟกัสให้กดปุ่มแรก AF แล้วหมุน Dial มีให้เลอก 9 จุด การโฟกัสไม่ได้ไวปรื้ดหรืออะไรถ้าแสงเยอะไม่มีการ ฮัตติ่งไห้เห็นส่วนมากจะเจอเวลาแสงน้อย
4.โหมดสำเร็จรูป
มีให้ 4โหมด จะซ่อนอยู่ในโหมดรูปหน้าคนไม่รู้ว่าเรียกอะไร หมุน Dial เอาเด่วก็เจอ
โหมดหลักจะแยกออกมาเป็นของตัวเอง เช่น P A S M
1.โหมด Sport 2.Macro ส่วนมากจะทำตามได้เท่าที่ สเปคเลนส์
1.บุคคล 2.ทิวทัศน์ อันนี้โฟกัสเร็ว เพราะมันจะวิ่งไป Infinite ก่อนเลย
5.Speed Shutter และ รูรับแสง
Speed สูงสุดได้ 1/2000 แอบน้อยเวลาใช้เลนส์ F1.8 ถ่ายกลางแดดอาจจะต้องใช้ F2.8
Speed ต่ำสุด 30 วิ ก็ปกติทั่วไป
แต่มันมี Shutter B ให้นะต้อเสียคือ วัดแสงไม่ทำงานอันนี้เข้าใจได้เป็นปกติ แต่แต่ทำไมไม่ให้ช่องเสียบสายลั่นมาให้ด้วยย เพราะถ้าเรากดปุ่มแน่นอนมันสั่นในแนวแกน X และ Z ไม่งั้น พี่ก็ให้ปุ่มยกกระจกมาก็ได้ ใจร้ายใจดำจัง
ส่วนเลนส์ถ้าเราใช้ระยะที่ 28 กว้างสุด 3.5 แคบสุด 22
ส่วนเลนส์ถ้าเราใช้ระยะที่ 80 กว้างสุด 5.6 แคบสุด 38 มีใครให้มากกว่านี้ไหม
*ถ่ายรัวได้ 3ภาพต่อวิ ในกรณีใช้ MF หรือใช้ Single Focus
1.ลากยาวได้ถึง 30 วิ 2.สูงสุด1/2000 แอบน้อย

3.Shutter B งั้นๆใส่มาพอเป็นพิธี
6.แฟลช HSS ได้

ตามที่อ่านสเปคมาจาก ตปท มัน HightSpeedSync ได้แต่อันนี้ไม่เคยลองเพราะ hotshoes มันแปลกประหลาดเหลือเกินแต่ก็น่าจะใช้ Wireless ได้แหละ มีทั้ง Slow และ hight ให้ใช้
7.เล็กๆน้อยๆ
1.ถ่ายภาพซ่อน ได้แค่2 2.ฉายวันที่มันใช้วิธีสมัยใหม่คือการฉายสะท้อนจากตัวกล้องต่างจากแบบเก่าที่ฉายจากฝาหลังเลยขอเสียของพวกที่ฉายจากฝาหลังคือมักพบปัญหาถ่านเน่าทำให้ใช้ Fucntion ฉายวันที่ต่อไม่ได้
7.1 เวลาเราโหลดฟิล์มเข้าไปเราจะไม่สามารถเปิดฝาหลังได้ตราบใดที่เราไม่กรอฟิล์ม คือมันล๊อกเดือย ปุ่มฝาหลังอันนี้ดีชอบ ถ่ายจนครบ 36 รูป มันจะรอให้ออโต้ หรือ กดกรอเอง
7.2 ตั้งเวลาถ่าย
7.3 ปี๊ป มีเสียเวลาโฟกัสเข้า ปกติ
7.4 มีปุ่มเช็คชัดลึก
7.5 ลบตาแดง
7.6 ตั้งโหมดของเราขึ้นมาได้
7.7 ตั้งค่า EV +- ได้
สรุปถือว่าดีอาจจะเป็นเพราะกล้องออกปลายยุคฟิล์ม และ ถูกว่า position ของกล้องอยู่ระดับกลาง มี Function ให้ใช้ครบ แต่แอบขาดในสิ่งที่ไม่ควรขาดเช่น LED จอเวลามองในที่มือ หรือ Speed ที่ 1/4000 ทั้งที่แต่ก่อน minolta เคยทำ Speedที่ 1/12000 มาแล้วแต่ส่วนตัวชอบเลยแหละ หน้าตาหล่อ แต่ติดตรงที่ Grip เล็กไปหน่อย minolta ดันไม่าทำ Grip เสริมด้วยเฮ้อ จบ
Comments